รีวิวเที่ยวจีน เพราะ เอาแต่ใจไปย่าติง Yading เริ่มต้นจาก Chengdu

เที่ยวจีนครั้งนี้ เพราะ เอาแต่ใจไปย่าติง หลังจากที่แวะเที่ยวเมืองรายทางแบบค่ำไหนนอนนั่น และเที่ยว ไห่โหลวโกว Hailuogou พร้อมกับปรับสภาพร่างกาย ตามถนนหมายเลข G318 เป็นเวลา 3 วัน 3 คืน ก็มาถึงถึงเมือง Riwa หรือ Shangri-La ซึ่งเมืองนี้อยู่ห่างจาก Yading อุทยานย่าติง 40 กิโลเมตร พักเมืองนี้จะได้เดินเที่ยวในเมืองได้ด้วย คนขับรถพาไปเลือกโรงแรม ถ้าเราพอใจราคาและความสะอาดก็เลือกเลย เมืองนี้โรงแรมเยอะมากจริงๆ มีที่กำลังก่อสร้างใหม่อีกเพียบ เราพัก 3 คืน ไม่เรื่องมากค่ะ คนขับเลือกมาเป็นอย่างดีเพราะเค้าโทรถามเพื่อนแล้ว ราคาห้องละ 150หยวน สะอาด ห้องน้ำดี อยู่ริมถนนที่รถบัสเข้าย่าติงผ่าน ขากลับเราแวะลงที่โรงแรมได้เลย

เส้นทางของทริปเที่ยวจีนนี้ ในมณฑลเสฉวน Sichuan ตามถนนหมายเลข G318 Chengdu – Ya’-an – Luding – Moxi – Hailuogou – Kanding – Xinduqiaozhen – Litang – Daocheng – Riwa, Shangri-La – Yading

>> คลิกอ่านรีวิวเที่ยวจีนทริปอื่นๆ

มาถึงก็เดินเที่ยวในเมือง Riwa เป็นการซ้อมเดินก่อนจะเดินในย่าติง 🙂

เมื่อพวกเราเจอร้านขายของชำ ก็ชอบเลยค่ะ ซื้อของกิน ของใช้ อะไรแปลกใหม่ก็ซื้อ ตุนของกินไว้กินด้วย

โยเกิร์ตนมจามรีที่นี่อร่อยมาก ซื้อกินทุกเช้าเย็นเลยค่ะ ขวดนี้ราคา 5หยวน และไอศครีมสตอเบอร์รี่นี้ ก็อร่อย ถึงแม้จะหนาวก็กิน หนามยอกเอาหนามบ่ง กลัวร่างกายจะขาดน้ำตาล อิอิ

ต้องไม่ลืมกินปิ้งย่างแบบนี้ และเครื่องเทศหม่าร่า มาถึงถิ่นก็ต้องได้ลองนะคะ (ภาษาจีน หม่า=ชา , ร่า = เผ็ด)

เที่ยวในเมือง Riwa พอแล้ว ต่อไปก็ได้เวลาสนุกแล้วค่ะ การจะเข้าไปเที่ยวในอุทยานย่าติง จะมีรถบัสโดยสารของอุทยานจากเมือง Riwa มีสถานีรถบัสที่จะไปอุทยานย่าติง ค่ารถบัส 120 หยวน ค่าเข้าอุทยานย่าติง 150 หยวน (ซื้อแบบเข้า 2 วัน) ด้วยระยะทาง 40 กิโลเมตร นั่งไต่เขารถประมาณ 1 ชั่วโมง

ระหว่างทาง คนขับก็จะจอดจุดชมวิวนี้ให้แวะถ่ายรูป 10 นาที รีบลงไปกดชัตเตอร์แบบเร่งรีบ แค่วิวนี้ก็ว้าวววววแล้วค่ะ

นั่งรถมาอีก ก็มาเจอหมู่บ้านเล็กๆ ถ้าไม่พักในเมือง ก็สามารถพักที่หมู่บ้านระหว่างทางนี้ได้ค่ะ จะใกล้ย่าติง

มาถึงทางเข้าอุทยานย่าติงแล้วค่ะ ย่าติง อยู่บนที่สูงระดับ 4,000 เมตร จุดที่สูงที่สุดเราจะเดินไปถึง สูง 4,700 เมตรจากระดับน้ำทะเล เพราะฉะนั้นการเตรียมตัวมาเดินที่นี่เพื่อให้ตัวเองรอดปลอดภัยก็สำคัญมากนะคะ ที่พวกเราแวะพักตามเมืองต่างๆ เพื่อปรับร่างกายให้ค่อยๆ ขึ้นที่สูง จะได้ไม่มีอาการแพ้ที่สูง ถ้าไม่มั่นใจว่าจะแพ้ที่สูงมั้ย ก็พกยาไดอะม๊อกซ์มากินด้วยนะคะ

:star: สิ่งที่ต้องเตรียมตัวสำหรับทริปนี้
– เสื้อกันหนาว กันลม กันแดด กันฝน จัดไปให้ครบ และพร้อมจะถอดได้ตลอดเวลา เพราะอากาศที่นี่เปลี่ยนแปลงบ่อย
– หมวก แว่นกันแดด ร่ม ผ้าบัฟ ผ้าพันคอ แล้วแต่สะดวก
– รองเท้า Trekking สำหรับเดินป่าเดินเขา ต้องใช้รองเท้าที่เหมาะสม
– ไม้เท้า ไว้ช่วยค้ำตอนเดินขึ้นและลงทางชัน ช่วยบรรเทาให้เข่าทำงานน้อยลง
– ของกินที่ให้พลังงาน และขนมที่มีน้ำตาล อย่างที่พวกเราเตรียมมาด้วย คือ อินทผาลัม กล้วยตาก ช๊อคโกแล็ต ลูกอม ขนมปัง (แอบหยิบตอนอาหารเช้าที่โรงแรม) ไข่ต้ม (สำคัญเพราะคืออาหารกลางวัน ในย่าติงไม่มีขายของกิน) ซีเรียลบาร์เพื่อให้อิ่มท้อง
– น้ำเปล่า น้ำจับเลี้ยง (ของชอบพวกเราเลย) หรือจะพกน้ำหวานที่ชอบกิน
– ยาสามัญประจำตัว ต้องห้ามลืมนะ ไม่ว่าจะ ยาแก้ปวด ยาหม่อง ยาลม ยาดม พลาสเตอร์ติดแผล

แผนที่ภายในอุทยานย่าติง พอจะเขียนเป็นไทยได้ประมาณนี้ บอกแต่ละจุดว่ามีระดับความสูงจากระดับน้ำทะเลเท่าไหร่ เรามีเวลาเที่ยวย่าติง 2 วัน จะมีเดินระยะสั้นกับระยะยาว วันแรกเราเลือกเดินระยะยาวก่อน ด้วยระยะทางไปกลับประมาณ 12 กิโลเมตร จุดที่สูงที่สุดที่เราจะเดินไปถึงสูง 4,700 เมตร คือ ทะเลสาบห้าสี แต่ไฮไลท์ของเส้นนี้คือ ทะเลสาบน้ำนม ที่อยู่สูง 4,600 เมตร ที่เราเลือกเดินระยะไกลในวันแรกนี้ก่อน เพราะเห็นท้องฟ้าโล่งโปร่งใส จะทำให้เห็นวิวได้สวย อีกทั้งให้เดินหนักในวันแรกก่อน วันที่สองจะได้สบายๆ ชิลๆ

จากจุดลงรถบัส เดินขึ้นมานิดนึง จะถึงจุดที่นั่งรถเข้าไปจุดเริ่มเดินระยะยาว นั่งรถเล็ก ค่ารถไปกลับ 80 หยวน ระยะทางเกือบ 7 กิโลเมตร

เจอฟ้าใสแบบนี้สู้ตายเลยค่ะ ลุยยยยยยย!!! เริ่มเดินประมาณ 10 โมงกว่า มาดูว่าเราจะใช้เวลาเดินกี่ชั่วโมง เดินเรื่อยๆ ห้ามซ่าห้ามซน ต้องทำอะไรช้าๆ เพื่อความปลอดภัยและไม่เป็นภาระของเพื่อน

เป็นเอกลักษณ์ ภูเขายอดนี้ที่ย่าติง

เดินวันนี้ด้วยสัมภาระเป้ใบนี้หนักประมาณ 5-6 กิโลกรัมได้นะคะ เลือกเป้สะพายก็เลือกให้เหมาะสมกับขนาดตัว เบา และให้มีตัวรัดสะโพกเพื่อกระจายน้ำหนัก จะได้ไม่หนักที่หลังอย่างเดียว

ก็เพิ่งบอกไปห้ามซ่า ไม่ทันไร กระโดดซะแล้ว เตือนไม่ฟังๆ ฮาๆ ไหวอยู่

ทางราบสลับทางชัน เหนื่อยก็พัก ถ้ารู้สึกตัวว่า หายใจเร็ว ก็ให้หยุดพัก แล้วหายใจลึกๆ ยาวๆ อย่าฝืน เพราะยิ่งสูงอ๊อกซิเจนจะน้อย

คุณป้าเสื้อแดงนี้ มีโอกาสได้พูดคุยทักทาย ได้รู้อายุประมาณ 60 กว่าปี ที่เจอตอนนี้คือเค้าเดินจะไม่ไหว แต่ก็จะพยายามเดินไปให้ถึงทะเลสาบน้ำนม มีคนคอยช่วยพยุง นับถือใจแกมากเลยค่ะ ใจสู้ เราก็ต้องสู้ไปให้ถึง

มาถึงแว้ววววว ทะเลสาบน้ำนม สมคำร่ำลือ มันจะขาว เนียน สวยมาก ทะเลสาบน้ำนมเป็นน้ำแข็งลงไปเดินได้

บอกว่าห้ามซ่า ไม่ให้กระโดด แต่ทำไงได้นะคะ อดใจไม่ไหวจริงๆ ฮาๆ

นี่คือเหล่าผู้กล้าที่เดินทางมาถึงก่อน คนที่เหลือคาดว่าจะกลับตัวไปแล้ว เพราะบางคนสภาพร่างกายอาจจะไม่ไหว ถ้ารู้ตัวว่าไม่ไหวก็กลับตัวทันนะคะ พวกเรารู้จักมิตรภาพระหว่างเดินทาง เจอคนไทย 2 คนนี้ ทักทายหรือพูดคุยอะไรกันมากไปกว่า คำว่า เป็นยังไงบ้าง ไหวมั้ย เป็นอะไรหรือป่าว กินลูกอมมั้ย อินทผาลัมเราก็มีเยอะ สู้ๆ นะ ^_^ ผลัดกันถ่ายรูปให้

มื้อเที่ยงที่ทะเลสาบน้ำนม ไข่ต้ม 1 ฟอง (มือแอบเหี่ยว อิอิ)

เดินขึ้นไปอีกนิดส์นึง ทะเลสาบห้าสี จุดนี้ถือว่าเหนื่อยมาก เพราะเดินขึ้นเขา แต่ด้วยพลังไข่ต้ม สู้ไหวๆ

ทะเลสาบห้าสี ไม่รู้ห้าสียังไงอ่า หรือว่าเพราะน้ำน้อย สีเลยหายไปบ้าง ^_^ จากนั้นรีบลงกันดีกว่า ลาแล้วนะด้วยมุมสวยนี้

จุดที่จะเดินกลับนี้เป็นเวลาบ่ายสามโมง เราต้องลงไปให้ถึงรถบัสก่อนเวลา 6 โมงเย็น ดังนั้นต้องเดินลงอย่างเดียวเลย ห้ามแวะรายทางถ่ายรูป แต่ว่า ระหว่างที่เดินลง เจอเพื่อนในกลุ่มอีก 2 คนเพิ่งเดินขึ้นมาถึง เพื่อนบอกว่า เจอฝรั่งระหว่างทางบอกว่าอีกไม่ไกล ทะเลสาบน้ำนมมันสวยมาก ต้องไปให้ได้นะ มาแล้วต้องไปให้ถึง แล้ว 2 คนนี้ก็ต้องพยายามมาให้ถึง เราก็เลยต้องส่งน้องอีก 2 คนคอยอยู่ช่วยกัน แล้วที่เหลือเดินลงไปก่อนพร้อมแบกเป้ของเพื่อนลงไปด้วย กลัวเพื่อนจะหนัก 🙂 ระหว่างเดินลง เจอกลุ่มคนไทยด้วยกันบางคนจะวูบไม่ไหว ก็ต้องช่วยกัน แบ่งอินทผาลัมและขนมให้กิน เป็นการลดภาระของเราเองด้วย อิอิ

ใกล้จะถึงจุดขึ้นรถ พวกเรามาถึงก็ 5 โมงเย็นแล้วค่ะ มองย้อนกลับไปข้างหลังท้องฟ้าแปรปรวนมืดมาเชียว จู่ๆ หิมะก็โปรยปรายลงมา แล้ว 4 คนที่ตามหลังละ ต้องเจอพายุหิมะนี้แน่นอน เริ่มเป็นห่วง แต่เราก็ต้องลงไปเพื่อแจ้งรถบัสว่ายังเหลืออีกกลุ่มคนไทย 4 คนที่ยังลงมาไม่ถึง ตอนแรกคนขับรถบัสจะไม่รอ เราต้องอ้อนวอนขอร้อง เพราะเราไม่รู้ว่าเค้าจะเป็นอะไรบ้างมั้ย

กระวนกระวายด้วยความเป็นห่วง อากาศก็หนาวเย็น และก็เริ่มจะมืด ถามคนที่ลงมาถึงท้ายๆ เค้าก็บอกว่าไม่เจอใครแล้วนะ ยังไงดีละเนี่ย จะเป็นอะไรมั้ย แต่สุดท้าย ก็มาถึงมีอาการอิดโรย ด้วยอากาศเบาบาง หนาว และเห็นว่ามีอาการวูบด้วย แต่น้องที่เราให้อยู่คอยช่วยเหลือ ได้เรียนหลักสูตร Rescue หรือการกู้ภัยช่วยชีวิต ทำให้รู้วิธีช่วยเหลือ และลงมาด้วยความปลอดภัย จบทริปนี้เค้าทั้งสองจะกลายเป็นคนที่แข็งแรงมากขึ้นทั้งกายและใจ ที่สามารถพาตัวเองเดินขึ้นไปที่ระดับความสูง 4,600 เมตรจากระดับน้ำทะเลและลงมาด้วยความปลอดภัย ถึงแม้จะช้าแต่ก็ถึง 🙂

แล้วอีกวัน ดูข่าวทีวีท้องถิ่น ได้ยินแว่วๆ ว่า มีข่าวคนไทยติดอยู่ในอุทยานย่าติง อิอิ เข้าไปอีกวัน เจ้าหน้าที่ต้องจำหน้าพวกเราได้แน่นอน

เช้าอีกวันต้องเข้าย่าติง เพื่อไปเดินระยะสั้น คลายกรด คลายเมื่อย จากที่เดินหนักเมื่อวาน เข้าย่าติงครั้งที่สอง ค่ารถบัสจะลดเหลือ 60 หยวน แต่ต้องโชว์บัตรเก่าของเมื่อวานให้เจ้าหน้าที่ขายตั๋วดูด้วยนะ รอบสั้นนี้ไม่ต้องนั่งรถเล็กละ ลงรถบัสก็เดินไปได้เลย จากแผนที่รูปเดิมข้างบนเราจะไปทางฝั่งขวานะคะ ระยะทางไปกลับประมาณ 3 กิโลเมตร ชิลๆ

วัดชงกู่ วันนี้มีเวลานาน ถ่ายรูปเพลินๆ

รูปแบบทางเดินจะทางราบสลับทางขึ้นบันได ก็หอบเหนื่อยอยู่นะ

ทะเลสาบจั๋วหม่าลาชั่ว ลืมคำแปลเป็นไทย ^^

โฉมหน้าเหล่าผู้กล้า ที่ยอมมาเที่ยวกับเรา ฮาๆ

ลงมาแวะไหว้พระที่วัดชงกู่

แรงงานหญิงสาว ถ้าใครคิดว่าตัวเองทำงานหนัก ต้องได้เห็นพวกเค้า ดูสิ่งที่เธอแบกซิค่ะ ก้อนหินนั้นเพื่อนำไปสร้างโบสถ์ในวัดนี้ ยังมีคนทำงานหนักและลำบากกว่าเราอีกเยอะนะคะ อย่าท้อๆ

พูดคุยกันทั้งที่คุยกันไม่รู้เรื่อง แต่ก็ยังหัวเราะและยิ้มให้กันได้ ^^ ก็พอได้แบ่งขนมที่เรามีให้พวกเธอ คุยกันไม่รู้เรื่องหรอก แต่รับรู้ว่า พวกเค้ายินดีและยิ้มให้ด้วยความเต็มใจ คนให้ก็ปลื้มใจ

เจอเด็กน้อยมาให้เล่นด้วยอีกล่ะ แบ่งขนมลูกอมที่มีติดตัว และขนมหมดตัวแล้วจริงๆ สั่งให้ทำท่าอะไรก็ทำ เด็กที่นี่น่ารัก ใส บริสุทธิ์ แก้มแดงจากอากาศที่หนาวเย็น เห็นแล้วก็อยากบอกน้องว่า อย่ายิ้มมากกลัวแก้มจะแตก อิอิ

จบทริปที่ Yading ย่าติง 2 วัน 3 คืน ได้อะไรมากกว่าที่คิด ประสบการณ์ใหม่ เรียนรู้มากขึ้น และรู้ขีดจำกัดตัวเองว่าทำได้และไหวแค่ไหน 🙂 ก็ได้เวลากลับเฉิงตูเพื่อกลับเมืองไทย จากนี้ไปก็แวะพักอีก 2 เมือง คือ Litang และ Luding

เราออกเดินทางจากเมือง Riwa สายๆ หน่อย ก็ 9 โมงกว่า ระหว่างทางแวะเที่ยวยืดเส้น เข้าห้องน้ำ

วัดนี้ก่อนจะถึงเมือง Litang จำชื่อไม่ได้ แต่อยู่ริมถนนทางผ่าน

คืนนี้หาโรงแรมนอนที่เมือง Litang มีเวลาได้เดินเที่ยวในเมืองอยู่บ้าง เมืองนี้อากาศหนาวมากกกก เรายังไม่พ้นเขตหนาว เช้าก็ออกเดินทางไปเมือง Luding แล้วระหว่างทางก็แวะวัดได้อีก เจอจุดไหนน่าสนใจก็บอกให้คนขับจอด คนขับใจดีนะ แต่วัดนี้ก็จำชื่อไม่ได้อีกนั่นละ อิอิ

มีดอกซากุระสวย

เจอเด็กน้อยแววตาใส เค้าจะหน้านิ่งมาก ขอถ่ายรูปก็นิ่ง แบ่งขนมให้น้องได้กิน นี่คือเหตุผลที่พวกเราเตรียมขนมมาเยอะ ได้แบ่งปัน เค้าได้ขนมไปเห็นแววตาแห่งความดีใจ เราก็มีความสุขที่ได้ให้

ที่วัดนี้ก็มีเรื่องอีกแล้ว อีกกลุ่มเข้าไปไหว้พระในโบสถ์นี้ แล้วลามะไม่รู้ว่ามีคนอยู่ข้างในก็ปิดประตูโบสถ์แบบล๊อคกลอนเลย ประตูที่นี่ก็อย่างหนา พวกเราถ่ายรูปอยู่ข้างนอก ก็ไม่ได้ยินเสียงจากข้างใน คิดว่าก็คงจะไหว้ขอพรนานหน่อย ที่ไหนได้ โดนขังมืด อิอิ แต่พวกเขาก็หาวิธีเปิดประตูออกมาจนได้ รอดไป ^_^

ไปต่อๆ เมือง Luding แวะข้างทางไปเรื่อยๆ บางจุดก็ขอแวะเข้าห้องน้ำข้างทาง ^^

มาถึงเมือง Luding ได้ที่พักติดถนนใหญ่ใกล้กับชุมชนแหล่งท่องเที่ยว

ได้เวลากลับเข้าเมืองเฉิงตู จาก Luding ไปถึงเฺงตูน่าจะประมาณบ่ายสาม แต่เราบินกลับ ตี 3 แล้วรถก็ส่งจบงานแค่สนามบิน (คนขับไม่สามารถพาเข้าเมืองได้ ห้ามออกนอกเส้นทาง ในรถมี GPS) เวลาเหลืออีกนานเอาไงดี ตกลงกันว่าจะเข้าเมืองเฉิงตูไปเดินเล่นช้อปปิ้งที่ถนนคนเดินฉุนซีลู่ แล้วก็ฝากกระเป๋าที่สนามบินเฉินตู จุดรับฝากอยู่ชั้นขาออกชั้น 2 นะคะ ฝากได้ถึงเวลา 5 ทุ่ม จากนั้นพวกเรานั่งรถบัสสาย A1 จากสนามบินไปลงสุดสาย ซึ่งใกล้กับถนนคนเดินฉุนซีลู่นี้ มีเวลาเดินเที่ยวได้ถึงแค่ 3 ทุ่มครึ่งนะ เพราะรถบัสรอบสุดท้ายหมด 4 ทุ่ม จากนั้นแยกย้ายกันเดิน ถนนคนเดินฉุนซีลู่นี้จะคล้ายโซนสยามแถวบ้านเรา แต่ที่นี่บริเวณกว้างขวางกว่ามาก มีหลากหลายสิ่งให้เลือกสรร เดินเที่ยวเท่าที่พอมีเวลาแล้วก็กลับ

จบทริปย่าติงนี้ รู้สึกว่าทริปนี้ยาวนาน แต่ได้อะไรกลับไปเยอะ ได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง ขอบคุณทุกคนที่ร่วมเดินทางและสร้างประสบการณ์การเดินทางที่แปลกใหม่ร่วมกัน หลังจากจบทริปนี้พวกเราจะแข็งแรงแข็งแกร่งขึ้นแน่นอน ^_^ เพราะ ก้าวแรกไม่สำคัญ แต่ก้าวไปด้วยกันสำคัญกว่า

เราไม่รู้หรอกว่าเราทำได้ไหม หรือทำได้แค่ไหน ถ้าไม่ลองทำ แล้วเราจะพบขีดความสามารถของตัวเอง ว่าเราทำได้ 🙂 และนี่คือสิ่งที่เรียนรู้จากทริป #เอาแต่ใจไปย่าติง

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

ติดตามและพูดคุยกันต่อได้ที่ Fanpage เที่ยวแล้วยัง : www.facebook.com/welikejourney
Email : lingple07@gmail.com
IG : https://www.instagram.com/lingple


Posted

in

by

Comments

One response to “รีวิวเที่ยวจีน เพราะ เอาแต่ใจไปย่าติง Yading เริ่มต้นจาก Chengdu”

  1. […] 3 วันถึง แล้วตามไปเที่ยวย่าติงกันต่อนะคะ คล…เดินทางไกล ระยะทางไม่ใช่ปัญหา […]

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *