เที่ยวจีน จากความเดิมตอนที่แล้ว คลิกอ่าน ตามหานาขั้นบันไดเขียวๆ ที่หยวนหยาง Yuanyang จนตัวจะเขียวกันแล้ว ก็ไปเที่ยวกันต่อ แต่ว่า … เปลี่ยนแผนกันนิดหน่อย การจัดการก็ไม่นิดหน่อยซิค่ะ สำหรับเรา ง่ายๆ ไม่ ยุ่งๆ ชอบ ฮาๆ หลงทางไปลี่เจียงจนได้
ซึ่งค่ำนี้เราต้องกลับคุนหมิงด้วยรถบัสนอน เพื่อจะไปเที่ยวเมืองตงชวนตามแผนเดิม ตั้งใจจะไปดูแผ่นดินสีแดง แต่คิดไปคิดมา ช่วงนี้น่าจะเป็นทุ่งนาเขียวคงไม่เห็นแผ่นดินสีแดงแน่นอน เลยเปลี่ยนแผนไป เมืองลี่เจียง Lijiang แต่จากคุณหมิงเราจะเดินทางไปยังไงดีนะ เพราะมีเวลาแค่ 2 วัน กับ 1 คืน รีบหาข้อมูลการเดินทางในทุกแบบว่าแบบไหนเหมาะกับเวลาที่เรามี ก็ได้ว่า จะนั่งรถไฟจากคุนหมิงไปลงต้าลี่ 2 ชั่วโมง แล้วต่อรถไฟจากต้าลี่ไปลี่เจียงอีก 2 ชั่วโมง จะทำให้มีเวลาเที่ยวได้พอ
ลืมบอกๆ รถบัสจากหยวนหยางกลับคุนหมิงมีวันละ 3 รอบ เวลา 9 โมง 11 โมง และ 5 โมงเย็น
รถบัสนอนสภาพดีสะอาด ต้องถอดรองเท้าก่อนขึ้นรถด้วย ดูดีมีมารยาท 🙂 เราจะไปถึงคุนหมิงตอนตี 1 และนี่เป็นประสบการณ์ครั้งแรกที่นอนต่อบนรถบัส มาถึงตี 1 ก็ไม่มีใครลงรถ เราก็นอนในรถให้ถึงเช้าด้วยดิ ประหยัดค่าโรงแรม คนนอนกันเยอะไม่อันตราย คนขับรถดับเครื่องและเปิดประตูไว้ แต่เราต้องเก็บสิ่งของสำคัญของเราไว้ติดตัวด้วยนะ นอนได้สบายไม่ร้อน ตี 5 ก็ตื่นไปเข้าห้องน้ำล้างหน้าไปกันต่อได้
มาเรื่องรถไฟไปลี่เจียงกันต่อ ต้องรีบจองตั๋วรถไฟ เข้าเวบ www.trip.com เพราะต้องแยกจองที่ละขา เราเลยต้องแบ่งกันจอง เพราะที่นั่งหายไปไวมาก refresh เวบกันตลอด
คุนหมิง – ต้าลี่ , ต้าลี่ – ลี่เจียง จะไปรถไฟความเร็วสูงหรือธรรมดาก็ได้ ตั๋วยืนก็ต้องไป อะไรก็ได้ เวลาไม่รอแล้ว ในเมื่อเราตัดสินใจจะไปและเดินทางแบบนี้ ต้องเดินหน้าอย่างเดียว 🙂
เลือกรอบเวลาที่จะรอต่อที่เมืองต้าลี่ไม่นานมาก แต่ด้วยคนจีนใช้บริการรถไฟกันเยอะมาก การจองในเวบก็จ่ายเงินผ่านบัตรเครดิตได้เลย ง่าย สะดวก ต้องใส่ชื่อและเลข Passport ให้ถูกต้องด้วย ถ้าผิดเค้าจะไม่ออกตั๋วให้จริงๆ นะ และแล้วเราก็ใส่เลข passport ผิดไป 1 คน เค้าไม่ยอมออกตั๋ว ต้องทำยังไงเหรอ คุยกันก็ไม่ค่อยจะรู้เรื่องแต่ก็มีคนจีนที่พูดอังกฤษได้มาช่วยกัน ถ้าเจอแบบนี้คือให้ซื้อตั๋วหน้าเค้าเตอร์ใหม่ แล้วก็ทำเรื่องขอ refund ค่าตั๋วใบเดิมนั้นคืน ซึ่งให้ทำในเวบได้เลย แต่รอบที่เราไปที่นั่งไม่พอสำหรับ 4 คน เลยต้องแยกกันไป 1 คนก่อน เพราะ 3 คนนั้นได้ตั๋วแล้ว สนุกเนอะ ลุ้นตลอดเวลา ฮาๆ ไปรอที่เมืองต้าลี่ เพื่อรอไปลี่เจียงในเวลาเดียวกัน ถึงต้าลี่ก็ต้องรีบไปออกตั๋วช่วยกันต่อแถวนะ คนจีนเยอะจริงๆ กลัวออกตั๋วไม่ทัน จะตกรถไฟ เฮ้อ!!! สนุกสนานตื่นเต้น แต่เราก็ไปถึงได้อย่างปลอดภัย
เรื่องยังไม่จบ ลงรถไฟที่ เมืองลี่เจียง LIJIANG 丽江市 ก็เหมา taxi เข้าไปเมืองเก่า บอกว่าไป ลี่เจียงกู่เฉิง คนขับก็รู้ ค่ารถ taxi ประมาณ 40 – 50 หยวน มาถึงก็เกือบ 6 โมงแล้วละ ที่พักที่เราจองมาจากเวบ มาถึงก็บอกว่าที่พักเต็ม แต่เค้าก็ใจดีพาพวกเราไปหาที่พักอื่นที่เค้ารู้จัก พาเราไปหาที่พักก็อยู่ในซอกหลืบเหลือเกิน แล้วเราออกไปเที่ยวจะกลับมาถูกมั้ย? ต้องช่วยกันจำทางกลับให้ได้ คืนนี้เลยได้เที่ยวในเมืองเก่า แล้วพรุ่งนี้ก็จะไปเที่ยวในหุบเขาหิมะมังกรหยก
คืนนี้ Night Life at Old Town of LIJIANG เมืองเก่าที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก เมืองที่อยู่ท่ามกลางอ้อมกอดของขุนเขาหิมะมังกรหยก และมีฉายาว่าเป็น “เวนิสแห่งตะวันออก”
🚶♂️ การเดินเที่ยวในเมืองโบราณลี่เจียง มันไม่ยากไม่ง่าย ตรอกซอกซอยเยอะเป็นที่สุด มีทางน้ำใสไหลผ่านเข้าในเมือง ฉะนั้นการเดินเล่นในเมืองโบราณลี่เจียงนั้น ถ้าไม่อยากหลงทางต้องเดินตามแนวน้ำไหล หรือ เข้ามาทางไหนก็ออกทางนั้น ไม่งั้นจะหลงหรือไปโผล่ด้านไหนของเมืองก็ไม่รู้ด้วยนะ ในเมืองโบราณลี่เจียงก็มีที่พักเยอะแยะ จะออกไปเดินเที่ยวก็จำทางกลับให้ได้นะคะ
จบไปอีก 1 คืน พักผ่อนนอนหลับให้พอ พรุ่งนี้เช้าไปหุบเขามังกรหยก แต่ว่ามีเพื่อนคนนึงตั๋วรถไฟกลับคุนหมิงหาย ยังไงอีกละเนี่ย ตอนเช้าเราก็ต้องรีบเก็บของออกไปที่สถานีรถไฟ เพื่อออกตั๋วใหม่แทนใบที่หาย ก็ต้องออกตั๋วใหม่ แล้วทำ refund เช่นเดิม เราก็เลยฝากกระเป๋าไว้ที่สถานีรถไฟนี้ แล้วก็เหมา taxi ไปส่งที่หุบเขามังกรหยก 300 หยวน ประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าก็ถึง
ช่วงนี้เป็นหน้าฝน ภูเขาหิมะมังกรหยก Jade Dragon Snow Mountain 玉龍雪山 หิมะบนยอดเขาละลายเหลือนิดนึง เราก็เลยเลือกไม่ขึ้นกระเช้าไปข้างบน อีกทั้งประหยัดค่ากระเช้าไปได้อีก ไปที่ Blue Moon Valley ก็สวยมากเช่นกัน
ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับ AAAAA เชียวนะคะ และยังมีโซน Switzerland อีกด้วย ประมาณว่าวิวและบรรยากาศคล้ายกับสวิสเซอร์แลนด์
นั่งรถบัสภายในมาที่ Blue Moon Valley สวยงามๆ ดังที่เห็นในรูป
นี่คือยอดเขาหิมะมังกรหยก ที่หิมะมีน้อย ได้เปิดเผยตัวตนที่แท้จริง ^_^
ขากลับเข้าเมืองลี่เจี่ยง ให้ขึ้นรถหมายเลข 7 เข้าเมืองนะคะ เป็นรถแบบ 6 – 8 ที่นั่ง
หมดเวลาชมวิวสวยที่นี่แล้ว ต้องกลับไปขึ้นรถไฟที่ไปคุนหมิง และบินกลับไทยด้วยไฟลท์เวลา ตี 2 ก็เที่ยวตามเวลาที่เรามี ได้แค่ไหนแค่นั้น ให้เผื่อเวลาไว้บ้างกันพลาดเผื่อรถติด รถไฟที่จีนตรงเวลา และมีสแกนกระเป๋าด้วย
ระหว่างทางกลับก็ได้รู้จักเพื่อนใหม่น้องๆ คนจีน ที่สนใจจะคุยด้วยกับเรา ก็คุยกันแบบไม่รู้เรื่องนี่ละ สนุกดี แต่ก็พอเข้าใจกันได้ ชื่ออะไร อยู่ไหน จะไปไหน น่ารัก ชอบคุย ไหว้สวยด้วยนะ
จบทริปนี้ด้วยความสนุก ตื่นเต้น แก้ปัญหาเฉพาะหน้ากันได้ สาย Backpacker เที่ยวจีนไม่ต้องกลัวอะไรแล้วนะ แม้ว่าจะพูดภาษาจีนไม่ได้ก็ไม่ต้องกลัว มันเป็นความท้าทายอย่างหนึ่ง ทดสอบการสื่อสารของเรา โลกนี้ไร้พรมแดนนะคะ มิตรภาพที่ดีหาได้ไม่ยาก เชื่อว่า เราคิดดี ทำดี พูดดี เราก็จะเจอแต่เรื่องดีดี เจอคนดีดี นะคะ
บอกค่าใช้จ่ายบางส่วนไว้ก่อนละกัน ที่เราจำได้ ^_^
- taxi จากสนามบินไปสถานีรถบัส 150 หยวน
- รถบัสคุนหมิง – หยวนหยาง 147 หยวน
- รถบัส หยวนหยาง – คุนหมิง 137 หยวน
- รถไฟคุนหมิง – ต้าลี่ 145 หยวน
- รถไฟต้าลี่ – ลี่เจียง 34 หยวน
- ค่ารถ taxi จากสถานีรถไฟลี่เจี่ยง มาที่เมืองเก่าลี่เจียง 50 หยวน
- ค่ารถ taxi ไปหุบเขามังกรหยก 300 หยวน
- ค่าเข้าเที่ยวหุบเขามังกรหยก 130 หยวน
- ค่ารถบัสไป Blue Moon Valley 20 หยวน
- ค่ารถจากหุบเขามังกรหยกไปสถานีรถไฟลี่เจียง 150 หยวน
- รถไฟ ลี่เจียง – ต้าลี่ 34 หยวน
- รถไฟ ต้าลี่ – คุนหมิง 145 หยวน
- รถ taxi Grab จากสถานีรถไฟ ไปส่งสนามบิน 100 หยวน
ส่วนค่ากินค่าที่พักก็แล้วจะสะดวกของแต่ละคน พักและกินไม่เหมือนกัน ใช้จ่ายตามที่เรามีและไหว เที่ยวให้สนุกและปลอดภัยนะคะ
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
ติดตามและพูดคุยกันต่อได้ที่ Fanpage เที่ยวแล้วยัง : www.facebook.com/welikejourney
Email : lingple07@gmail.com
IG : lingple
Leave a Reply